พบผู้ป่วยโรคไวรัส MERS-CoV ในประเทศไทยแล้ว!! เป็นชายชาวตะวันออกกลาง ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทย
มารู้จักกับโรค MERS-CoV กันให้ดีขึ้นดีกว่า จะได้ป้องกันไว้ก่อน ^^
“ไวรัสเมอร์ส” (MERS) โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์ใหม่ กำลังเป็นที่น่าวิตกกังวลของคนในประเทศจีนและเกาหลีใต้เลยครับ เนื่องจากตอนนี้ทั้งสองประเทศได้ตรวจพบผู้ติดเชื้อแล้วเป็นจำนวนมาก ถึงแม้ยังไม่เข้ามาในประเทศไทย เราก็ต้องเตรียมตัวเพื่อความปลอดภัยกันไว้ก่อนครับ ทางกระทรวงสาธารณสุขของเราก็ประกาศเตือนไว้ระวังกันแล้วด้วย
ไวรัสเมอร์ส คือ
“ไวรัสเมอร์ส” (MERS) ย่อมาจาก Middle East Respiratory Syndrome ชื่อเรียกอีกอย่างคือ โคโรน่าไวรัสสายพันธุ์กลุ่มอาการโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง
บ้างก็ให้ฉายาว่า เมอร์สคอฟ (MERS-CoV) เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในกลุ่มโคโรน่าไวรัส (Coronavirus: CoV) ซึ่งจัดเป็นไวรัสตระกูลใหญ่ที่เคยแพร่เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่และโรคซาร์ส (SARS) เมื่อหลายปีก่อน
บ้างก็ให้ฉายาว่า เมอร์สคอฟ (MERS-CoV) เนื่องจากเป็นโรคที่เกิดจากการติดเชื้อในกลุ่มโคโรน่าไวรัส (Coronavirus: CoV) ซึ่งจัดเป็นไวรัสตระกูลใหญ่ที่เคยแพร่เชื้อโรคไข้หวัดใหญ่และโรคซาร์ส (SARS) เมื่อหลายปีก่อน
ต้นกำเนิดของไวรัสเมอร์ส
“ไวรัสเมอร์ส” (MERS) ถูกค้นพบครั้งแรกในปี 2012 พบในผู้เสียชีวิตที่ประเทศซาอุดีอาระเบีย คาดว่าพาหะมาจากอูฐที่เลี้ยงไว้ ความร้ายกาจของไวรัสเมอร์สคร่าชีวิตผู้คนในประเทศ
ไปกว่า 100 คน และยังมีการแพร่กระจายไปยังประเทศใกล้เคียงอีก ไม่ว่าจะเป็นประเทศ จอร์แดน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ตูนีเซีย, อียิปต์, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และล่าสุด เดือนมิถุนายน 2588 ได้พบเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในประเทศจีนและเกาหลีใต้แล้ว
ไปกว่า 100 คน และยังมีการแพร่กระจายไปยังประเทศใกล้เคียงอีก ไม่ว่าจะเป็นประเทศ จอร์แดน, กาตาร์, สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์, ฝรั่งเศส, เยอรมนี, อิตาลี, ตูนีเซีย, อียิปต์, อังกฤษ, สหรัฐอเมริกา และล่าสุด เดือนมิถุนายน 2588 ได้พบเชื้อไวรัสที่แพร่ระบาดในประเทศจีนและเกาหลีใต้แล้ว
การระบาดของไวรัสเมอร์ส
“ไวรัสเมอร์ส” (MERS) การแพร่กระจายของเชื้อ จะอาศัยละอองเสมหะ และน้ำลาย เมื่อเกิดอาการไอหรือการจามจะแพร่กระจายไปยังผู้ที่ได้สัมผัสกับละอองเชื้อโรค และจะทำการเพาะพันธุ์เชื้อไวรัสใหม่ จึงทำให้สามารถกระจายจากคนสู่คนได้
อาการของไวรัสเมอร์ส
“เชื้อไวรัสเมอร์ส” (MERS) มีระยะของการฟักตัวอยู่ที่ 2-14 วัน ถ้าหากผู้ป่วยมีอาการไข้ ไอ จาม หายใจเร็ว และมีอาการหอบ หลังจาก 14 วันให้หลังของการฟักตัว ไม่ว่าจะเป็นการเดินทางไปยังพื้นที่เสี่ยงในการติดเชื้อ หรือมีอาการติดเชื้อทางเดินในระบบทางเดินหายใจขั้นรุนแรง แต่ไม่สามารถหาสามารถเหตุได้ ควรรีบเข้ารับการตรวจเชื้อไวรัสเมอร์สโดยด่วนที่สุด
การรักษาโรคเมอร์ส
ในทางการแพทย์ปัจจุบันยังไม่มีวัคซีนที่ใช้รักษาหรือต่อต้านเชื้อไวรัสเมอร์ส เนื่องจากเป็นเชื้อไวรัสตัวใหม่จึงจำเป็นต้องใช้เวลาในการศึกษาเพื่อการสร้างวัคซีนต่อต้าน ซึ่งตอนนี้ก็มีการเร่งพัฒนาวัคซีนเพื่อที่จะต่อต้านเชื้อไวรัสเมอร์สแล้วแต่ยังไม่ประสบผลสำเร็จ ส่วนพวกเราในตอนนี้ก็คงได้แต่คอยระวังและป้องกันการติดเชื้อให้มากที่สุดเท่านั้น
การป้องกัน
– รักษาสุขอนามัยของตนเอง
– ล้างมือก่อนทานอาหารทุกครั้ง และทานอาหารที่ปรุงสุกใหม่
– หลีกเลี่ยงการใช้มือสัมผัสตา จมูก ปาก และใบหน้า
– สวมหน้ากากอนามัยเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ
– หลีกเลี่ยงการสัมผัส หรืออยู่ใกล้ผู้ป่วยที่มีความเสี่ยงติดเชื้อไวรัสเมอร์ส
– หลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังพื้นที่เสียงในประเทศที่มีการระบาดของเชื้อ
ขอบคุณข้อมูล kapook.com
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น