เตือน "เอลนิโญ" ปีนี้ อาจทำสถิติรุนแรงสุด

สํานักงานอุตุนิยมวิทยาแห่งออสเตรเลีย (เอบีเอ็ม) แถลงเมื่อเร็วๆ นี้ระบุว่า ปรากฏการณ์เอลนิโญ ในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อน (ทรอปิคอล แปซิฟิก) ที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในเวลานี้ทวีระดับความรุนแรงเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีข้อมูลรูปแบบสำคัญๆ เบื้องต้นที่วัดได้คล้ายคลึงกับเอลนิโญที่เกิดขึ้นระหว่างปี 1997-1998 ซึ่งเป็นเอลนิโญที่มีขนาดความรุนแรงสูงสุด ตามสถิติที่ทางองค์การสำรวจมหาสมุทรและบรรยากาศแห่งชาติ (โนอา) ของสหรัฐอเมริกาจัดทำไว้

ข้อมูลดัชนีอุณหภูมิผิวน้ำบริเวณตอนกลางและทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนปรับตัวขึ้นสู่ระดับสูงกว่าระดับอุณหภูมิเฉลี่ยถึง 1 องศาเซลเชียสต่อเนื่องกันเป็นเวลานาน 6 สัปดาห์ นอกจากนั้นจากการใช้แบบจำลองคอมพิวเตอร์สามารถคาดการณ์ได้ว่า อุณหภูมิในบริเวณดังกล่าวจะเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องต่อไปในเดือนกรกฎาคมที่จะมาถึง

เอลนิโญ คือปรากฏการณ์ที่ผิวน้ำทะเลทางตะวันออกของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนอุ่นขึ้น และแผ่ขยายกว้างไกลออกไป เป็นเวลานานถึง 3 ฤดูกาลหรือมากกว่า (ในทางกลับกันถ้าผิวน้ำทะเลในบริเวณนี้เย็นลงจะเรียกว่า ลานิญา) ปรากฏการณ์ เอลนิโญ จะส่งผลกระทบต่อภูมิอากาศและการเกษตรกรรมทั่วโลก เนื่องจากจะส่งผลให้พื้นที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมทั้งไทยและอินโดนีเซีย เรื่อยไปจนถึงตอนเหนือของออสเตรเลีย ร้อนและแห้งแล้งผิดปกติ ในขณะที่ก่อให้เกิดฝนตกหนักผิดปกติในพื้นที่ทวีปอเมริกาใต้ และทำให้หน้าร้อนในทวีปอเมริกาเหนือเย็นลงกว่าปกติ ส่งผลให้เกษตรกรรมได้ผลผลิตลดลงเพราะความแล้ง หรือได้รับความเสียหายจากภาวะน้ำท่วมหรือมีฝนหนักมากเกิน

ข้อสังเกตของเอบีเอ็มก็คือภาวะสูงขึ้นของอุณหภูมิผิวน้ำของมหาสมุทรแปซิฟิกเขตร้อนในเวลานี้แผ่เป็นบริเวณกว้างขวางมากจนผิดปกติ

ครั้งสุดท้ายที่เกิดปรากฏการณ์ทำนองเดียวกันนี้คือเมื่อเกิดเอลนิโญระหว่างปี 1997-1998 อย่างไรก็ตาม ทางสำนักงานอุตุนิยมวิทยาของออสเตรเลียชี้ว่า จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถชี้ชัดได้ว่าความรุนแรงของเอลนิโญครั้งนี้จะขึ้นสูงถึงระดับใด และเตือนด้วยว่า ระดับความรุนแรงของเอลนิโญก็ไม่ใช่ว่าจะสัมพันธ์โดยตรงกับผลกระทบที่เกิดขึ้นเสมอไป

อย่างไรก็ตาม องค์การอุตุนิยมวิทยาโลก (ดับเบิลยูเอ็มโอ) หน่วยงานในสังกัดสหประชาชาติ ระบุว่า แบบจำลองที่ใช้คาดคะเนอุณหภูมิเหนือมหาสมุทรแปซิฟิกส่วนใหญ่แสดงให้เห็นทิศทางเดียวกันว่าอุณหภูมิจะเพิ่มสูงขึ้นอีกในเดือนต่อๆไปนับจากนี้ และอาจสูงขึ้นจนถึงระดับที่ก่อให้เกิดปรากฏการณ์เอลนิโญรุนแรงได้ แม้ว่าการคาดการณ์ที่แม่นยำมากกว่าและสามารถบ่งชี้ถึงระดับความรุนแรงของเอลนิโญได้นั้น ต้องรอให้ผ่านไปถึงครึ่งหลังของปีนี้ก่อนเพื่อให้ได้ข้อมูลเพิ่มเติมที่ชัดเจนมากขึ้น

แต่ดับเบิลยูเอ็มโอ ยืนยันแน่นอนว่า ภาวะอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้นนี้จะยังไม่หมดไปในอนาคตอันใกล้

ดังนั้นผลกระทบเรื่องความร้อนและแห้งแล้งที่เกิดขึ้นในเวลานี้จะยังคงอยู่อย่างน้อยในอีก 3-6 เดือนข้างหน้านี่แน่นอน