ค่ำคืนของวันจันทร์ที่ 17 สิงหาคม น่าจะเหมือนกับวันเริ่มต้นสัปดาห์ใหม่เหมือนเช่นทุกๆวัน สภาพการจราจรบริเวณสี่แยกราขประสงค์หนาแน่นตามปกติ เพราะเป็นศูนย์กลางทางเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวของไทย ผู้คนทั้งชาวไทย และนักท่องเที่ยวต่างชาติ ดำเนินกิจวัตรประจำวัน จับจ่ายใช้จ่ายสอย มีจำนวนไม่น้อยที่ตั้งใจเดินทางมาสักการะศาลท้าวมหาพรหม ตามความเชื่อถือศรัทธา
แต่พลันที่เวลาเดินทางถึง 18.55 น. บึม !!!
เสียงระเบิดดังกึกก้องออกมาจากรั้วศาลพระพรหม สิ้นอานุภาพของระเบิด คือ เสียงร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวดของผู้ได้รับบาดเจ็บดังระงม ร่างผู้บาดเจ็บซึ่งส่วนใหญ่อากาศสาหัสนอนกระจัดกระจาย ส่วนร่างผู้เสียชีวิตจำนวนมากนอนแน่นิ่งอยู่กับพื้น ที่น่าสะพรึงกลัวคือ ชิ้นส่วนอวัยวะของมนุษย์กระจายเต็มบริเวณ ไม่กี่นาทีต่อมา เสียง “ไซเรน” ของรถพยาบาล หน่วยกู้ภัย รถเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารเดินทางเข้าพื้นที่ ภารกิจแรกคือ การช่วยเหลือผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลใกล้เคียง
อาสาสมัครกู้ภัยจากมูลนิธิร่วมกตัญญูรายหนึ่งเล่าวว่า เขาสะเทือนใจกับภาพที่ปรากฎเบื้องหน้า เพราะผู้บาดเจ็บหลายคนเป็นชาวต่างชาติ ส่วนใหญ่มากันเป็นคู่ หลายคนสูญเสียบุคคลอันเป็นที่รักไปต่อหน้าต่อหน้า หญิงสาวต่างชาติรายหนึ่งที่เขาช่วยชีวิตเธอเอาไว้ ยังกอดแขนที่ขาดออกจากร่างของชายคนรักไม่ยอมปล่อย จนต้องพยายามอธิบายให้เธอยอมไปรักษาตัวที่โรงพยาบาล
ระเบิดมีกี่ลูกกันแน่ ???
ภารกิจสำคัญที่ต้องทำควบคู่กันไป คือ การเก็บกู้วัตถุระเบิด โดยเจ้าหน้าที่เก็บกู้ระเบิด หรืออีโอดี ที่ระดมกันมาทั้งตำรวจ และทหาร โดยเป็นการทำงานท่ามกลางความมืด มีเพียงแสงไฟส่องสว่างจากรถปั่นไฟที่จอดอยู่กลางสี่แยกราชประสงค์ บรรยากาศการทำงานเป็นไปอย่างเคร่งเครียด เพราะเกรงว่าจะมีระเบิดลูกที่ 2-3 ที่ซุกซ่อนไว้ตามมา ไม่ไกลจากจุดที่ชุดอีโอดีทำงาน มีรถตัดสัญญาณจอดอยู่ใกล้ ๆ เพื่อทำหน้าที่ตัดสัญญาณโทรศัพท์มือถือ หรือวิทยุสื่อสาร ที่อาจทำให้เกิดระเบิดซ้ำขึ้นมาอีก
รายงานข่าวจากหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ระบุว่า วัตถุระเบิดที่คนร้ายในก่อเหตุเป็นได้ทั้ง “ทีเอ็นที” หรื”ซีโฟร์”กำลังรอผลการพิสูจน์จากห้องปฏิบัติการ มีน้ำหนักราว 3-5 ปอนด์ เป็นระเบิดที่ทำงานสมบูรณ์แบบ ในที่เกิดเหตุพบลูกปลายลักษณะกลมคล้ายลูกปืนรถจักรยานยนต์ มีความกว้าง 0.66 มม. เป็นส่วนประกอบระเบิด สันนิษฐานเบื้องต้นว่าระเบิดน่าจะประกอบจากต่างประเทศ
อีกประเด็นที่ถูกตั้งคำถาม คือ ระเบิดที่เกิดบริเวณสี่แยกราชประสงค์มีกี่ลูกกันแน่ รายงานเบื้องต้นข้อมูลสับสน แต่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยืนยัน ระเบิดมีเพียงลูกเดียวที่ทำงาน คือบริเวณศาลพระพรหม
ส่วนระเบิดจักรยานยนต์บอมบ์เก็บกู้ได้ เช่นเดียวกับวัตถุต้องสงสัยที่หน้าห้างเกษรพลาซ่าแต่สื่อมวลชนเริ่มตั้งคำถามกับ ภาพของมอร์เตอร์จำนวนมากที่เสียหายจากแรงระเบิดว่าคล้ายกับมอร์เตอร์ไซค์บอมบ์หรือไม่ และร่างแหลกเหลวของผู้เสียชีวิต เป็นไปได้หรือไม่ที่จะเป็นระเบิดฆ่าตัวตาย คำถามเหล่านี้น่าจะมีคำตอบที่ชัดเจนจากผู้ที่รับผิดชอบงานด้านความมั่นคง
อีกภารกิจหนึ่งที่เจ้าหน้าที่ต้องทำงานหนัก คือการกันผู้ไม่เกี่ยวข้องออกจากพื้นที่เกิดเหตุ เพราะนอกจากจะกระทบต่อการเก็บหลักฐานแล้ว อาจเกิดอันตรายกับบรรดา “ไทยมุง” หากเกิดระเบิดตามมาอีก
กล้องวงจรปิด จับภาพชายต้องสงสัยได้
กล้องวงจรปิด หรือ CCTV เฉพาะภายในศาลท้าวมหาพรหม มีไม่น้อยกว่า 5 ตัว จับภาพชายต้องสงสัยคล้ายชาวต่างชาติ ใส่แว่นตา สวมเสื้อยืดสีเหลือง กางเกงสามส่วน สะพายเป้สีเข้ม เดินเข้าไปในศาลพระพรหม แล้วนั่งที่ม้านั่งอยู่ระยะหนึ่ง โดยนำกระเป๋าเป้ที่นำด้วยวางไว้ใต้ที่นั่ง แล้วลุกออกไปโดยที่ไม่ได้นำกระเป๋าเป้ออกไปด้วย หลังจากนั้นไม่กี่นาที “ เสียงระเบิด” ก็ดังขึ้น !!!
พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธ์ม่วง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ขอให้มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่รับชายผู้ต้องสงสัยมาจากซอยมหาดเล็กหลวง เดินทางเข้าให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ โดยจะปกปิดข้อมูลและรับประกันความปลอดภัยผบ.ตร.ยอมรับว่า เบื้องต้นมีการยกคดีระเบิดที่ซอยสุขุมวิท 71 เมื่อปี 2555 ซึ่งมีชาวอิหร่านเป็ฯผู้ต้องหามาเทียบเคียง
ไทยดับ 6 - ต่างชาติตายแล้ว 12
ข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการสำนักงานตำรวจแห่งชาติ สรุปยอดผู้เสียชีวิต 20 ราย บาดเจ็บ 125 ราย
ส่วนรายชื่อผู้เสียชีวิต 20 ราย จาก สถาบันนิติเวช สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มีดังนี้
1. น.ส.สุดชาดา นิสีดา เพศหญิง สัญชาติไทย
2. น.ส. วราภรณ์ ช่างทำ เพศหญิง สัญชาติไทย
3. น.ส.น้ำอ้อย แสงจัง เพศหญิง สัญชาติไทย
4.น.ส.ปราณี เร่งงาน เพศหญิง สัญชาติไทย
5. นายยุทธณรงค์ สิงห์รอ เพศชาย สัญชาติไทย
6. นายสุวรรณ สัตย์มั่น เพศชาย สัญชาติไทย
7. .Mr.Neoh Jaijun เพศชาย สัญชาติมาเลเซีย
8. Mr.Lee Tze Siang เพศชาย สัญชาติมาเลเซีย
9. Miss Lim Saw Sek เพศหญิง สัญชาติมาเลเซีย
10..Lee Going Xuan เพศหญิง สัญชาติมาเลเซีย
11..Mrs.Lioe Lie Tging เพศหญิง สัญชาติอินโดนิเซีย
12. Miss Pang Wan Chee Arcadia เพศหญิง สัญชาติฮ่องกง
13. Miss Chan Wingyuan Vivian เพศหญิง สัญชาติฮ่องกง
14..Mrs.Melisa Liu Rui Chum เพศหญิง สัญชาติสิงคโปร์
15.Ga0 Yuzhu เพศหญิง สัญชาติจีน
16.Mr.Diwo Chengi เพศชาย ไม่ทราบสัญชาติ
17.หญิงชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ
18. ชายชาวต่างชาติไม่ทราบชื่อ
19. ชิ้นส่วนกระโหลกศีรษะ ไม่ทราบเพศ ไม่ทราบสัญชาติ
20.ชิ้นส่วนลำตัวบน ไม่ทราบเพศ ไม่ทราบสัญชาติ
ท่าทีของรัฐบาล และ คสช.
สำนักข่าวต่างประเทศหลายแห่ง อ้างคำพูด พลเอกประวิตร ว่า ผู้ที่ก่อเหตุมีเป้าหมายที่ “ชาวต่างชาติ” มุ่งทำลายเศรษฐกิจ และภาพลักษณ์ด้านการท่องเที่ยวของประเทศไทย และขณะนี้สามารถจำกัดกลุ่มผู้ต้องสงสัยเป็นผู้ลงมือก่อเหตุได้แล้ว
ช่วงเช้าหลังเกิดเหตุนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมผ่านระบบวีดีโอ คอนเฟอร์เรนซ์ กับทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง เพื่อประเมินสถานการณ์ โดยพลเอกประยุทธ์แสดงความเสียใจต่อผู้บาดเจ็บและเสียชีวิต และประณามว่าเป็นการกระทำของ “คนเลว” พร้อมชี้แจงว่า ยังไม่สรุปว่าเหตุนระเบิดที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกลุ่มใด พร้อมร้องขอความร่วมมือจากสื่อมวลชน และผู้ใช้โซเชียลมีเดีย อย่านำเสนอข่าวในทิศทางชี้นำการทำงานของเจ้าหน้าที่
ปฏิกิริยาจากนานาชาติ
นายกรัฐมนตรีลีเซียนลุง แห่งสิงคโปร์ และนายกรัฐมนตรี นเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย เป็น 2 ผู้นำคนแรกที่ออกมาประณามการกระทำของกลุ่มผู้ก่อเหตุระเบิด และแสดงความเสียใจต่อครอบครัวของผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บทุกราย พร้อมคาดหวังว่า ทางการไทยจะนำตัวผู้ก่อเหตุระเบิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็ว
นายบันคีมูน เลขาธิการองค์การสหประชาชาติ ออกแถลงการณ์ว่ารู้สึกตกใจกับเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นที่กรุงเทพทำให้เกิดความสูญเสียต่อชีวิตของผู้บริสุทธิ์ และแสดงความหวังว่า จะสามารถนำตัวผู้กระทำผิดเข้าสู่กระบวนการยุติธรรม
- ด่วนๆเลย…เจ้าหน้าที่จับมือบึ้มราชประสงค์ได้ที่ท่าเรือชลบุรี
- สมเด็จพระนางเจ้าฯพระบรมราชินีนาถโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานอาหารเครื่องดื่ม
- รวบแล้ว “วิชเวช พรพรหมรักษา” เสื้อผู้โพสแจ้งเตือนระเบิดล่วงหน้า
- ตามหาตุ๊กตุ๊ก-จยย.รับจ้าง ไล่ล่าคนร้าย "ระเบิดราชประสงค์"
- หลังเกิดเหตุระเบิดราชประสงค์ "หมอปลาย"ออกมาเตือนด้วยข้อความนี้ และมีคนเห็นด้วยจำนวนมาก
- ตร.เตรียมออกหมายจับจากภาพสเก็ตซ์ "มือบึ้มราชประสงค์"
- เจ้าหน้าที่กรุงเทพมหานคร ร่วมกับหน่วย EOD และกองพิสูจน์หลักฐาน ลงทำการค้นหาชิ้นส่วนวัตถุระเบิดได้แล้ว
0 ความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น